ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้ในการสื่อสารและการทำงานในหลายประเทศทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ การเรียนรู้ภาษาอังกฤษจึงมีความสำคัญสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษหรือผู้ที่ต้องการติดต่อสื่อสารกับผู้คนจากทั่วโลก
มีวิธีการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง (ESL) มากมาย ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง ครูและนักเรียนควรทำงานร่วมกันเพื่อเลือกวิธีการสอนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพวกเขา
แนวทางการสอน ESL
มีแนวทางการสอน ESL หลักๆ สองประการ ได้แก่ แนวทางแบบธรรมชาติและแนวทางแบบโครงสร้าง
แนวทางแบบธรรมชาติ
แนวทางแบบธรรมชาติ (Natural Approach) มุ่งเน้นไปที่การให้นักเรียนได้สัมผัสกับภาษาอังกฤษในสภาพแวดล้อมที่เหมือนจริง ครูจะสร้างโอกาสให้นักเรียนได้ฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องกังวลกับกฎไวยากรณ์หรือคำศัพท์มากเกินไป
แนวทางแบบธรรมชาติมีข้อดีหลายประการ ประการแรก ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ ประการที่สอง ช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะการสื่อสารที่สำคัญ เช่น การฟัง พูด และอ่าน ประการที่สาม ช่วยให้นักเรียนรู้สึกมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ
แนวทางแบบโครงสร้าง
แนวทางแบบโครงสร้าง (Structural Approach) มุ่งเน้นไปที่การสอนกฎไวยากรณ์และคำศัพท์อย่างเป็นระบบ ครูจะอธิบายกฎไวยากรณ์และคำศัพท์ให้นักเรียนทราบ จากนั้นจะให้นักเรียนฝึกฝนการใช้กฎเหล่านั้น
แนวทางแบบโครงสร้างมีข้อดีหลายประการ ประการแรก ช่วยให้นักเรียนเข้าใจกฎไวยากรณ์และคำศัพท์อย่างลึกซึ้ง ประการที่สอง ช่วยให้นักเรียนสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ประการที่สาม ช่วยให้นักเรียนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง
การผสมผสานแนวทางการสอน
ในความเป็นจริง ครูมักใช้วิธีการสอน ESL ทั้งสองวิธีร่วมกัน ตัวอย่างเช่น ครูอาจใช้แนวทางแบบธรรมชาติเพื่อช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะการสื่อสาร จากนั้นจึงใช้แนวทางแบบโครงสร้างเพื่อช่วยให้นักเรียนเรียนรู้กฎไวยากรณ์และคำศัพท์
หลักการการสอน ESL
นอกเหนือจากแนวทางการสอนแล้ว ยังมีหลักการการสอน ESL ที่สำคัญอีกหลายประการ ซึ่งครูควรคำนึงถึงเมื่อสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง
หลักการสำคัญประการแรกคือ การสอนควรมีความสอดคล้องกับระดับความสามารถของนักเรียน ครูควรประเมินระดับความสามารถของนักเรียนก่อนเริ่มสอน จากนั้นจึงปรับการสอนให้เหมาะสมกับระดับความสามารถของนักเรียน
หลักการสำคัญประการที่สองคือ การสอนควรมีความน่าสนใจและมีส่วนร่วม ครูควรใช้กิจกรรมและสื่อที่หลากหลายเพื่อช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพ
หลักการสำคัญประการที่สามคือ การสอนควรเน้นที่การสื่อสาร ครูควรให้โอกาสนักเรียนได้ฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่างๆ
เคล็ดลับการสอน ESL
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับการสอน ESL เพิ่มเติม:
- เน้นที่ทักษะการสื่อสารที่สำคัญ เช่น การฟัง พูด อ่าน และเขียน
- ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ภาษาอังกฤษในสภาพแวดล้อมที่เหมือนจริง
- ปรับการสอนให้เหมาะสมกับระดับความสามารถของนักเรียน
- ใช้กิจกรรมและสื่อที่หลากหลายเพื่อช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพ
- เน้นที่การสื่อสาร
สรุป
มีวิธีการสอน ESL มากมาย ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง ครูและนักเรียนควรทำงานร่วมกันเพื่อเลือกวิธีการสอนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพวกเขา ครูควรคำนึงถึงหลักการการสอน ESL ที่สำคัญต่างๆ เพื่อช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ